เป้าหมายทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ ๆ อย่างนายพิชัย ชุณหวชิร ล้วนเข้ารับตำแหน่งพร้อมกับภารกิจมากมายที่รออยู่ข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับธนาคารแห่งประเทศไทย การสร้างรายได้ที่มั่นคง และการดำเนินนโยบายที่มีความรับผิดชอบทางการคลัง การจัดการศุลกากรและสรรพสามิต การเฝ้าระวังอัตราเงินเฟ้อซึ่งสูงถึง 1.54% ในเดือนพฤษภาคม แต่ลดลงเหลือ 0.62% ในเดือนมิถุนายน และการบรรลุเป้าหมายนโยบายการเงินร่วมที่ตกลงไว้กับธนาคารแห่งประเทศไทย การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน

แม้จะมีรายการภารกิจที่ต้องดำเนินการมากมายเช่นนี้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว นายพิชัยในฐานะทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและรองนายกรัฐมนตรีมีภารกิจหลักเพียงอย่างเดียว นั่นคือการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ขณะที่ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าการเติบโตของประเทศไทยจะเพิ่มขึ้นจาก 1.9% ในปี 2566 เป็น 2.4% ในปี 2567 แต่การเติบโตกลับลดลงในไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้ว ประเทศไทยยังคงล้าหลังประเทศอาเซียนอื่นๆ รวมถึงมาเลเซียซึ่งเติบโตที่ 4.2% ในไตรมาสแรก ฟิลิปปินส์ที่มีการคาดการณ์การเติบโตที่ 6.0% เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศและการส่งออกที่สูงขึ้น และอินโดนีเซียที่มีการคาดการณ์การเติบโตที่ 5.1% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลเล็กน้อย

อ่านต่อ…